วันพุธที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

เมืองยะหา

  เมืองยะหา








ประวัติ


พื้นที่ของอำเภอยะหาแยกมาจากอำเภอเมืองยะลาในปี พ.ศ. 2481 สมัยหลวงรัชกาลประดิษฐ์ (แปะ) เป็นเจ้าเมืองยะลาและหมื่นเสนานุรักษ์ (ประดิษฐ์ ศุภอักษร)
ปลัดเมืองยะลาในขณะนั้นได้สำรวจพื้นที่และคัดเลือกตำบลยะหาเป็นที่ตั้งที่ว่าการอำเภอยะหา เบื้องต้นแบ่งออกเป็น 11 ตำบลได้แก่ ตำบลยะหา ตำบลตาชี ตำบลบาโงยซิแน ตำบลสะเอะ ตำบลบาโร๊ะ ตำบลปะแต ตำบลซีเยาะ ตำบลบาโงย ตำบลชะเมาะ และตำบลลาบู
พ.ศ. 2443 หลวงภักดีรณฤทธิ์ นายอำเภอยะหาในขณะนั้น ได้ปรับปรุงเขตการปกครองใหม่ โดยยุบบางตำบลรวมกับอีกตำบลเข้าด้วยกัน ยุบตำบลบาโงยรวมกับตำบลบาโร๊ะ ยุบตำบลซีเยาะรวมกับตำบลบาโงยซิแน และยุบตำบลชะเมาะรวมกับตำบลละแอ

การปกครองส่วนภูมิภาค[แก้]

การปกครองของอำเภอยะหามี 7 ตำบล 49 หมู่บ้าน ได้แก่
1.ยะหา(Yaha)9 หมู่บ้าน
2.ละแอ(La-ae)6 หมู่บ้าน
3.ปะแต(Patae)9 หมู่บ้าน
4.บาโร๊ะ(Baro)8 หมู่บ้าน
5.ตาชี(Ta Chi)5 หมู่บ้าน
6.บาโงยซิแน(Ba-ngoi Sinae)6 หมู่บ้าน
7.กาตอง(Ka Tong)6 หมู่บ้าน

ประชากร


ส่วนใหญ่ประชากรของอำเภอยะหาส่วนใหญ่เป็นชาวไทยเชื้อสายมลายู นับถือศาสนาอิสลามเป็นจำนวนมากถึงร้อยละ 93 ซึ่งมีความเคร่งครัดต่อศาสนา และนิยมส่งบุตรหลานเรียนหลักธรรมของศาสนา นอกจากนี้ยังมีชาวไทยพุทธ เป็นส่วนน้อยโดยส่วนใหญ่จะอยู่ในเขตสุขาภิบาล และตำบลตาชี รวมกันมีร้อยละ 3 นอกจากนี้ยังมีชาวไทยเชื้อสายจีน และชาวไทยถิ่นอีสานอาศัยอยู่ในเขตสุขาภิบาลด้วย

  • ด้านภาษา ส่วนใหญ่ประชาชนนิยมพูดภาษามลายูถิ่น แต่เมื่อชาวไทยมุสลิมต้องการพูดคุยกับชาวไทยพุทธก็จะพูดภาษาไทย หรือภาษาไทยถิ่นใต้ นอกจากนี้ชาวไทยพุทธบางคนก็สามารถใช้ภาษามลายูโต้ตอบได้ แต่ส่วนใหญ่นิยมใช้ภาษาไทยถิ่นใต้
  • ด้านอาชีพ ส่วนใหญ่ประชาชนในอำเภอยะหาจะทำเกษตรกรรมเป็นส่วนมาก เช่น ปลูกต้นยางพารา และยังมีอาชีพรับจ้าง เช่น คนสวนกรีดยางและค้าขาย

สถานที่สำคัญ





วัฒนรรมในอำเภอยะหา

อาซูรอ

ช่วงเวลา ตรงกับวันที่ ๑๐ เดือนมุฮัรรอม ซึ่งเป็นเดือนแรกของปีของศาสนาอิสลาม (ประมาณเดือนพฤศจิกายนของทุกปี)

ความเป็นมา
ความเป็นมาของการกวนข้าวอาซูรอ หรือกวนขนมอาซูรอสืบเนื่องจากได้เกิดน้ำท่วมใหญ่ในสมัยนบีนุฮ (อล) ทำให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สิน ไร่นาของประชาชนและสาวกของนบีนุฮ (อล) และคนทั่วไปอดอาหาร นบีนุฮ (อล) จึงประกาศให้ผู้ที่มีสิ่งของเหลือพอจะรับประทานได้ ให้เอามากองรวมกัน และให้เอาของเหล่านั้นมากวนเข้าด้วยกัน เพื่อให้ทุกคนได้รับประทานอาหารกันโดยทั่วหน้า

ความสำคัญ

การกวนข้าวอาซูรอ (ขนมอาซูรอ) เป็นประเพณีท้องถิ่นของชาวไทยมุสลิมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ คำว่า อาซูรอ เป็นภาษาอาหรับ แปลว่า การผสม การรวมกัน คือการนำสิ่งของที่รับประทานได้หลายสิ่งหลายอย่างมากวนรวมกัน มีทั้งชนิดคาวและหวาน การกวนข้าวอาซูรอจะใช้คนในหมู่บ้านมาช่วยกันคนละไม้คนละมือ เพื่อความสามัคคีและสร้างความพร้อมเพรียงเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน อันมีผลต่อการอยู่ร่วมกันของสังคมอย่างมีความสุข ก่อนจะแจกจ่ายให้รับประทานกัน เจ้าภาพจะเชิญบุคคลที่นับถือของชุมชนขึ้นมากล่าวขอพร (ดูอา) ก่อน จึงจะแจกให้คนทั่วไปรับประทานกัน

พิธีกรรม

การกวนข้าวอาซูรอเริ่มด้วยการที่เจ้าภาพประกาศเชิญชวนนัดหมายให้ชาวบ้านทราบว่าจะมีการกวนข้าวอาซูรอกันที่ไหน เมื่อใด เมื่อถึงกำหนดนัดหมายชาวบ้านก็จะนำอาหารดิบ เช่น เผือกมัน ฟักทอง มะละกอ กล้วย ข้าวสาร ถั่ว เป็นต้น มารวมเข้าด้วยกันแล้วปอกหั่น ตัดให้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย จากนั้นนำเครื่องปรุง เช่น ข่า ตะไคร้ หอม กระเทียม ผักชี ยี่หร่า เกลือ น้ำตาล กะทิ เป็นต้น มาเป็นเครื่องผสมโดยหั่นตัดให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ เช่นเดียวกัน สำหรับกะทิจะคั้นเฉพาะน้ำมาผสม
วิธีกวน นำกะทะใบใหญ่ตั้งไฟ มีไม้พายสำหรับคนขนมอาซูรอ หลังจากตั้งกะทะบนเตา คั้นน้ำกะทิใส่ลงไป ตำหรือบดเครื่องแกงหยาบ ๆ ใส่ลงในน้ำกะทิ เมื่อกะทิเดือดใส่อาหารดิบต่าง ๆ ที่กล่าวมาแล้ว คนด้วยไม้พายจนกระทั่งทุกอย่างเปื่อยยุ่ย กวนต่อไปจนเป็นเนื้อเดียวกัน เมื่อแห้งได้ที่แล้วตักใส่ถาด โรยหน้าด้วยไข่เจียวหั่นบาง ๆ หรืออาจโรยหน้ากุ้ง เนื้อสมัน ปลาสมัน ผักชี หอมหั่นฝอย แล้วแต่รสนิยมของท้องถิ่น แล้วตัดเป็นชิ้น ๆ แจกจ่ายกันรับประทาน

หมายเหตุ : เนื้อสมัน ปลาสมัน คือ ปลา หรือเนื้อวัว ที่ต้มเคี่ยวด้วยเครื่องแกงจนแห้ง ใช้ทัพพีขยี้จนเนื้อเหล่านั้นเป็นผงฝอย แล้วนำไปโรยหน้าขนมอาซูรอ ถ้าเป็นชนิดหวานมีส่วนผสมเหมือนอาซูรอชนิดคาว แต่งใส่เครื่องเทศ และอาหารจำพวกเนื้อ เพิ่มน้ำตาลให้มากขึ้นและไม่ต้องโรยหน้า

การกวนข้าวอาซูรอ ( ขนม อาซูรอ )


 



โรงเรียนมัธยมในอำเภอยะหา

  โรงเรียนสุขสวัสดิ์วิทยา





ชื่อโรงเรียน                            สุขสวัสดิ์วิทยาชื่อผู้บริหาร                     อับดุลเลาะ หะยีสะอิ ตำแหน่ง ครูใหญ่ชื่อผ้ให้ข้อมูล               อับดุลเลาะ หะยีสะอิ ตำแหน่ง ครูใหญ่ที่อยู่     63 หมู่ที่ 3 ตำบลบาโงซีแน อำเภอยะหา จังหวัดยะลา   ตั้งอยู่ในเขต                    องค์การบริหารส่วนตำบลประเภทของสถานศึกษา     โรงเรียนเอกชนสอนศาสนา                                                      อิสลามประเภทมูลนิธิเป็นเจ้าของ หลักสูตรศาสนา                    สอนทั้ง 3 ระดับหลักสูตรสามัญ                 สอนเฉพาะมัธยมต้น,มัธยมปลาย   







วันอังคารที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

โรงเรียนประถมศึกษาในอำเภอยะหา

โรงเรียนบ้านกาตอง







       โรงเรียนบ้านกาตอง   ตั้งอยู่หมู่ที่ 2 ตำบลกาตอง อำเภอยะหา จังหวัดยะลา  รหัสไปรษณีย์ 95120 โทรศัพท์ 073-239249   E-mail : katongschool@gmail.com
website : http://www.katongschool.com สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษายะลา เขต 2
เริ่มสร้างขึ้นโดยความร่วมมือของราษฎร์และทางอำเภอยะหา โดยเรียกชื่อว่า โรงเรียนประชาบาลตำบลบาโร๊ะ
ลักษณะอาคารโรงเรียนเป็นอาคารชั่วคราวเสาไม้กลม ฝาไม้ไผ่ หลังคามุงจาก กว้าง 5 เมตร ยาว 15 เมตร
เปิดทำการสอนครั้งแรก เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2479 ตั้งแต่ระดับชั้น ป.1- ป.4
โดยมี นายอั้น พูนภักดี เป็นครูใหญ่ จนถึง พ.ศ. 2481 จึงย้ายไปทำงานที่แผนกศึกษาธิการอำเภอ
พ.ศ. 2500 โรงเรียนได้รับงบประมาณให้สร้างอาคารเรียนถาวร และบ้านพักครู จำนวน 1 หลัง
ปัจจุบันโรงเรียนบ้านกาตอง  เป็นโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษาและเป็นศูนย์ปฏิรูปการศึกษา
เป็นโรงเรียนในโครงการ 1 โรงเรียน 2 ระบบ คือสายสามัญ  สายศาสนา
ปัจจุบันโรงเรียนบ้านกาตองได้เข้าโครงการโรงเรียนในฝันรุ่นที่ 3 (โรงเรียนในฝันโรงเรียนดีประจำอำเภอ)
โดยมี นายอับดุลรอฮิม   คอแด๊ะ เป็นผู้อำนวยการโรงเรียน
มีจำนวนข้าราชการครูทั้งหมด 21 คน พนักงานราชการ 9 คน ครูผู้สอนอิสลามศึกษา(โครงการอิสลามศึกษาแบบเข้ม)
9 คน ครูพี่เลี้ยง  1 คน  ลูกจ้างประจำตำแหน่งนักการภารโรง 1 คน ลูกจ้างชั่วคราว (นักการภารโรง) 1 คน
มาช่วยราชการ 1 คน  จำนวนบุคลากรทั้งหมด  43 คน  จำนวนนักเรียนทั้งหมด  424  คน
ปรับปรุงข้อมูลเมื่อ 2014-05-04 18:29:29 น.




   



















ข้อมูลพื้นฐาน โรงเรียนบ้านยะหา

รหัสโรงเรียน 10 หลัก :
  1095440107
รหัส Smis 8 หลัก :
  95020089
รหัส Obec 6 หลัก :
  440107
ชื่อสถานศึกษา(ไทย) :
  บ้านยะหา
ชื่อสถานศึกษา(อังกฤษ) :
  BANYAHA
ที่อยู่ :
  หมู่ที่   2   บ้านยะหา
ตำบล :
  ยะหา
อำเภอ :
  ยะหา
จังหวัด :
  ยะลา
รหัสไปรษณีย์ :
  95120
โทรศัพท์ :
  073-291236
โทรสาร :
  073291236
ระดับที่เปิดสอน :
 อนุบาล-ประถมศึกษา
วัน-เดือน-ปี ก่อตั้ง :
  23/11/2463
อีเมล์ :
  banyaha440@hotmail.com
เว็บไซต์ :
เครือข่ายพัฒนาคุณภาพการศึกษา :
  โรงเรียนในฝัน โครงการอิสลามศึกษา โรงเรียนดีมีคุณภาพ(โรงเรียน 3 D)
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น :
  เทศบาลตำบลยะหา
ระยะทางจากโรงเรียน ถึง เขตพื้นที่การศึกษา:   
  42 กม.
ระยะทางจากโรงเรียน ถึง อำเภอ:   
  0.2 กม.

(ข้อมูล ณ วันที่ 26 ตุลาคม 2558 เวลา 18:49:27 น.)








ข้อมูลพื้นฐาน โรงเรียนบ้านพงกูแว

รหัสโรงเรียน 10 หลัก :
  1095440113
รหัส Smis 8 หลัก :
  95020090
รหัส Obec 6 หลัก :
  440113
ชื่อสถานศึกษา(ไทย) :
  บ้านพงกูแว
ชื่อสถานศึกษา(อังกฤษ) :
  pongkuwae
ที่อยู่ :
  หมู่ที่   5   บ้านพงกูแว
ตำบล :
  ยะหา
อำเภอ :
  ยะหา
จังหวัด :
  ยะลา
รหัสไปรษณีย์ :
  95120
โทรศัพท์ :
  073-250061
โทรสาร :
  -
ระดับที่เปิดสอน :
 อนุบาล-ประถมศึกษา
วัน-เดือน-ปี ก่อตั้ง :
  5 สิงหาคม 2503
อีเมล์ :
  rungrudee2011@gmail.com
เว็บไซต์ :
เครือข่ายพัฒนาคุณภาพการศึกษา :
  สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายะลา เขต 2
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น :
  ยะหา
ระยะทางจากโรงเรียน ถึง เขตพื้นที่การศึกษา:   
  58 กม.
ระยะทางจากโรงเรียน ถึง อำเภอ:   
  5 กม.

(ข้อมูล ณ วันที่ 29 มิถุนายน 2558 เวลา 14:10:19 น.
)





















วันศุกร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ศาลาดูดวงจันทร์





ศาลาดูดวงจันทร์ อำเภอยะหา



ประวัติความเป็นมา
    
ที่ว่าการอำเภอยะหาได้สร้างขึ้นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2411 ซึ่งในขณะนั้นได้แบ่งการปกครองออกเป็น 11 ตำบล ต่อมาในปี พ.ศ. 2443 ได้มีการยุบตำบลบางตำบลรวมเข้าด้วยกันเหลือเพียง 8 ตำบล และในปี พ.ศ. 2493 ทางราชการได้ประกาศยุบบางตำบลลงอีก ตามแผนบูรณชนบทของกระทรวงมหาดไทย คงเหลือเขตการปกครองเป็นตำบลอยู่ในปัจจุบัน 7 ตำบล 
    
ต่อมาในปี พ.ศ. 2493 ได้มีการสร้างที่ว่าการอำเภอยะหาขึ้นใหม่ คือที่ว่าการอำเภอยะหาปัจจุบัน เปิดใช้เป็นสถานที่ราชการเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2495 

1) สภาพทั่วไป1.1) ที่ตั้งและขนาด
อำเภอยะหาตั้งอยู่ทางทิศใต้ของจังหวัดยะลา ระยะทางห่างจากตัวจังหวัดยะลาโดยทาง
รถยนต์ประมาณ 20 กิโลเมตร มีเนื้อที่ประมาณ 499.9 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 312,500 ไร่

1.2 ) อาณาเขตทิศเหนือ ติดต่อกับอำเภอเมืองยะลา และอำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา
ทิศใต้ ติดต่อกับอำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา และรัฐเคดาห์ ประเทศมาเลเซีย
ทิศตะวันออก ติดต่อกับอำเภอเมืองยะลา กิ่งอำเภอกรงปินัง จังหวัดยะลา
ทิศตะวันตก ติดต่อกับอำเภอกาบัง จังหวัดยะลา
1.3) ภูมิประเทศสภาพพื้นที่ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูงชันสลับซับซ้อน และเป็นป่าทึบประมาณ 80 % ของพื้นที่ทั้งหมด มีพื้นที่ที่เป็นที่ราบลุ่มเล็กน้อย
ภูเขา มีพื้นที่เป็นภูเขาแนวยาวติดต่อกับอำเภอบันนังสตา อำเภอเมือง และอำเภอกาบัง จังหวัดยะลา ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าลาบู – ถ้ำทะลุ ป่าสงวนแห่งชาติเขาใหญ่ และป่าสงวนแห่งชาติป่าสกายอกูวิง ป่าตันหยงกาลอ
1.4) ภูมิอากาศลักษณะทางภูมิอากาศเป็นแบบมรสุม มี 2 ฤดู คือ
          - ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ - เดือนพฤษภาคม
          - ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายน - เดือน มกราคม
1.5) แหล่งน้ำสำคัญแหล่งน้ำธรรมชาติที่สำคัญ จำนวน 4 สาย
          - ลำคลองปะแต
          - ลำคลองตาชี
          - ลำคลองละแอ
          - ลำคลองเลาะตีเมาะ
2) ประชากรประชากร
มีประชากรทั้งสิ้น 46,831 คน ชาย 23,635 คน หญิง 23,196 คน มีความหนาแน่นเฉลี่ยต่อพื้นที่ประมาณ 93.66 คน / ตารางกิโลเมตร
3) การปกครองแบ่งการปกครองตาม พ . ร . บ . ลักษณะปกครองท้องที่ พ . ศ . 2475 เป็น 7 ตำบล 45 หมู่บ้าน ดังนี้
•  ตำบลยะหา
•  ตำบลปะแต
•  ตำบลละแอ
•  ตำบลบาโร๊ะ
•  ตำบลบาโงยซิแน
•  ตำบลตาชี
•  ตำบลกาตอง
4) ด้านเศรษฐกิจการเกษตรกรรม
อำเภอยะหามีพื้นที่การเกษตรทั้งสิ้น 235,600 ไร่
ครัวเรือนเกษตรกร จำนวน 5,600 ครัวเรือน
ประชากร 95 % ประกอบอาชีพทางการเกษตร ส่วนที่เหลือประกอบอาชีพค้าขายและอื่นๆ

พืชเศรษฐกิจที่สำคัญแยกได้ ดังนี้
•  ยางพารา
•  ข้าว
•  ทุเรียน
•  ลองกอง
•  มะพร้าว
•  สะตอ
•  มังคุด
•  ลางสาด
•  เงาะ

การอุตสาหกรรม
มีโรงงานอุตสาหกรรมที่ได้รับอนุญาติดำเนินการและประกอบกิจการ จำนวน 10 แห่ง
5) สภาพสังคม ศาสนา วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี
การศึกษา
สถานศึกษาสังกัด
จำนวนโรงเรียน
สปช .
สศ .
สช .
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
27
1
10
1
การศาสนาและศิลปวัฒนธรรม- การศาสนา ประชาชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม ประมาณ 90.19% ศาสนาพุทธ ประมาณ 9.81 %
- มีสถาบันหรือองค์กรทางศาสนา
- วัด จำนวน 3 แห่ง
- มัสยิด จำนวน 52 แห่ง
การสาธารณสุขมีสถานบริการทางสาธารณสุข ดังนี้
•  โรงพยาบาล ขนาด 30 เตียง จำนวน 1 แห่ง
•  สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ จำนวน 1 แห่ง
•  สถานีอนามัยประจำตำบล / หมู่บ้าน จำนวน 10 แห่ง
•  หน่วยควบคุมโรคติดต่อนำโดยแมลง จำนวน 1 แห่ง
•  สถานพยาบาลของเอกชน จำนวน 3 แห่ง ( คลีนิคแพทย์ , สถานผดุงครรภ์ )
•  ร้านขายยาแผนปัจจุบัน จำนวน 3 แห่ง
6) ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม- ทรัพยากรดิน
           จำนวน 80 % ของพื้นที่เป็นดินที่เหมาะสมสำหรับปลูกยางพาราและไม้ผล เช่น ทุเรียน ลองกอง เงาะ ส่วนที่เหลือเป็นดินที่เหมาะสมสำหรับการปลูกข้าว

- ทรัพยากรน้ำ
          มีลำคลองที่สำคัญ 3 สาย คือ คลองปะแต คลองตาชี และคลองกูวิง ซึ่งไหลลงมาจากพื้นที่ต้นน้ำในเขตป่าสงวน และไหลมาบรรจบกันที่ ตำบลบาโร๊ะ แล้วจึงไหลลงแม่น้ำปัตตานี

- ทรัพยากรป่าไม้
          อำเภอมีพื้นที่ป่าไม้สำคัญ ได้แก่ ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าลาบู - ถ้ำทะลุ ในเขตท้องที่ตำบลปะ แต
ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาใหญ่ ป่าสงวนแห่งชาติป่าตันหยงกาลอ ในเขตท้องที่ ตำบลตาชี และป่าสงวนป่าสกา - ยอกูวิงในเขตท้องที่ตำบลบาโร๊ะ
7) สถานที่ท่องเที่ยว- ฝายแก่งนางรำ หมู่ที่ 5 ตำบลตาชี
- ศาลาดูดวงจันทร์ หมู่ที่ 6 ตำบลยะหา
8) ศักยภาพของอำเภอ
           
พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นเนินเขาที่ไม่สูงนักมีที่ราบระหว่างภูเขาเล็กน้อย เหมาะสำหรับทำสวนยางพารา และสวนผลไม้
          ประชาชนส่วนใหญ่ 90% นับถือศาสนาอิสลาม           มีวัฒนธรรมขนบธรรมเนียมประเพณีเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง
- ระบบการบริการพื้นฐาน
           
การติดต่อคมนาคมระหว่างอำเภอกับตัวจังหวัด ระหว่างอำเภอกับอำเภอใกล้เคียง สามารถติดต่อได้โดยสะดวกรวดเร็วทุกฤดูกาล การติดต่อระหว่างตำบลหมู่บ้านมีปัญหาเล็กน้อย ในช่วงฤดูฝน ส่วนด้านสาธารณูปโภคมีไฟฟ้าใช้เกือบทุกครัวเรือน และหลายหมู่บ้านมีระบบประปาภูเขาใช้
- ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
           
ทรัพยากรธรรมชาติส่วนใหญ่ค่อนข้างจะสมบูรณ์ทั้งแร่ธาตุ ป่าไม้ สัตว์ป่า และแหล่งน้ำ มีการทำเหมืองแร่ดีบุกในท้องที่ตำบลปะแต มีป่าสงวนแห่งชาติ จำนวน 4 ป่า คือ ป่าสงวนแห่งชาติป่าลาบู – ถ้ำทะลุ ป่าสงวนแห่งชาติเขาใหญ่ ป่าสงวนแห่งชาติรตันหยงลากอ และป่าสงวนแห่งชาติป่าสกายยอกูวิง เป็นแหล่งต้นกำเนิดแม่น้ำสำคัญ คือ แม่น้ำปะแต แม่น้ำตาชีเป็นต้น
9) ทิศทางการพัฒนาอำเภอ
วิสัยทัศน์การพัฒนาอำเภอ 5 ปี
           
พัฒนาอำเภอยะหา ให้เป็นศูนย์กลางด้านการตลาดผลิตผลทางการเกษตร และสินค้าแปรรูปจากผลิตผลทางการเกษตร มีการแก้ไขปัญหาของประชาชนทุกด้านให้หมดไป โดยเน้นให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาให้มากที่สุด มีการแก้ไขปัญหายาเสพติดโดยใช้กีฬานำ โดยเน้นให้ประชาชนทุกพื้นที่ หันมาเล่นกีฬาสร้างสุขสภาพพลานามัยที่แข็งแรง และมีการพัฒนาโครงการสร้างพื้นฐาน ตามความต้องการของชุมชน เพื่อเสริมสร้างความอยู่ดีกินดี ของประชาชน
10) ผลิตภัณฑ์ในโครงการ หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์          - ผ้าบาติก
          - ส้มแขก
          - ผ้าคลุมผม